ทุกวันนี้เราต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ ทั้งแดด ฝุ่น ควัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวพรรณของเราเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆ เเละไม่ว่าจะเราจะมีสภาพผิวแบบไหนก็แล้วแต่ เราก็ยังจำเป็นต้องดูแลบำรุงผิวพรรณ และที่สำคัญเรายังต้องเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเสมอ ดังนั้นเราอยากพูดถึงสารสกัดจากธรรมชาติที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว งั้นเรามาทำความรู้จักกับสารสกัดจากธรรมชาติทั้ง 3 ชนิด กันเลยดีกว่าคร้าาา
1. โจโจ้บา ออยล์
เป็นสารให้ความชุ่มชื้นโดยธรรมชาติ และปัจจุบัน โจโจบาได้กลายเป็นส่วนผสมที่สำคัญในเครื่องสำอางต่างๆมากมาย เรามาดูประโยชน์สำคัญของโจโจ้บา ออยล์ที่มีต่อผิวพรรณกันค่ะ
น้ำมันที่สกัดจากโจโจบา มีวิตามินอีที่ช่วยรักษาความชุ่มชื่น คืนสมดุลให้ผิวแห้ง เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนังไม่เหี่ยวย่น ช่วยลดความมันส่วนเกินให้ผู้ที่มีผิวหน้ามัน โจโจ้บา ยังมีซิลิคอนช่วยในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ การเติบโตของเส้นผมและเล็บให้มีสุขภาพดี ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ผิวแตกลาย และรักษารอยแผลเป็น และนอกจากนี้ยังสามารถต้านสารอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำหน้าที่ป้องกันความร้อนมีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดได้อีกด้วยน๊าาา
น้ำมันที่สกัดจากโจโจบา มีวิตามินอีที่ช่วยรักษาความชุ่มชื่น คืนสมดุลให้ผิวแห้ง เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนังไม่เหี่ยวย่น ช่วยลดความมันส่วนเกินให้ผู้ที่มีผิวหน้ามัน โจโจ้บา ยังมีซิลิคอนช่วยในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ การเติบโตของเส้นผมและเล็บให้มีสุขภาพดี ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ผิวแตกลาย และรักษารอยแผลเป็น และนอกจากนี้ยังสามารถต้านสารอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำหน้าที่ป้องกันความร้อนมีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดได้อีกด้วยน๊าาา
2. Olive Oil (น้ำมันมะกอก)
น้ำมันมะกอกใช้บำรุงผิวพรรณ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย ทำให้ผิวกระจ่างใสชุ่มชื่นและชะลอริ้วรอยแห่งวัย โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ช่วยป้องกันผิวแห้งได้ดีมาก หรือจะนำมาใช้ชโลมผมเพื่อให้จัดทรงง่าย ลื่น เป็นมันวาว ทำให้สุขภาพผม และหนังศรีษะดีขึ้น อีกทั้งในปัจจุบันเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางต่างๆเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิว
2. Vitamin E
นอกจากจะเป็นสารบำรุงทำให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว ยังจะช่วยลดการอักเสบของผิวและช่วยป้องกันอันตรายที่เกิด จากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต ทั้งยังลดอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังจากแสงแดด และที่สำคัญช่วยชลอความชราภาพของผิว ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น แตกลายได้อีกด้วย